เช็คลิสต์ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูแลตัวเองยังไง? ห้ามทำอะไรบ้าง?

ภาพปกของบทความ - เช็คลิสต์ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูแลตัวเองยังไง? ห้ามทำอะไรบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ การใช้สารไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปเติมเต็มบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เช่น ริ้วรอย ร่องลึก ใต้ตาดำคล้ำ หรือถุงใต้ตา แต่เนื่องจากใต้ตาเป็นบริเวณที่ผิวบางกว่าบริเวณอื่นของใบหน้า มีทั้งหลอดเลือดฝอยและเส้นประสาทกระจายอยู่มาก จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ ถ้าไม่ดูแลตัวเองแบบถูกต้อง หลังจากฉีดฟิลเลอร์จึงจำเป็นต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเพื่อให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ ไม่เกิดผลข้างเคียง และฟิลเลอร์อยู่ได้นาน

บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา พร้อมแนะนำสิ่งที่ควรทำและควรหลีกเลี่ยง ตามไปดูรายละเอียดกัน

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีวิธีปฏิบัติดังนี้

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทันที – 48 ชั่วโมงแรก

ภาพ infographic อธิบาย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทันที - 48 ชั่วโมงแรก ควรดูแลตัวเองอย่างไร

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอจะปิดพลาสเตอร์ที่รอยเข็ม เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก หากครบ 1 ช่วโมง สามารถแกะออกได้
  • ในช่วงนี้ ใต้ตาอาจมีอาการบวม รอยแดง หรือรอยช้ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส การกด การนวด หรือขยี้ตา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเพิ่มเติม
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากมีอาการปวดร่วมด้วย สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  • การล้างหน้าให้ทำอย่างเบามือ ห้ามขัดถูบริเวณใต้ตาแรง ๆ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และควรรีบซับให้แห้งทันที ไม่กดหรือใช้แรงมากไป หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ใบหน้าโดนน้ำนานเกิน 15 นาที เพราะอาจทำให้รอยเข็มแฉะ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดทาครีมบริเวณรอบดวงตา 48 ช่วโมง เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัวและลดความเสี่ยงในการเกิดการระคายเคือง
  • ควรนอนหงายโดยให้ศีรษะสูงกว่าหน้าอก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงเป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ควรทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน เพื่อช่วยในการฟื้นตัวและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อน 

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วง 3 – 14 วัน

  • ควรพยายามอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น และหลีกเลี่ยงการออกแดดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเล่นกีฬา ซาวน่า หรืออบไอน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • งดการออกกำลังกายหนัก เพราะแรงกระแทกอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนจากตำแหน่งเดิมได้
  • งดขัด หรือสครับบริเวณรอบดวงตา เพื่อป้องกันการระคายเคืองและรักษาผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน
  • งดการนวดหน้า ทำทรีตเมนต์ต่าง ๆ  เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงการขยับใบหน้าอย่างมาก เช่น การหรี่ตาหรือยิ้มจนตาหยี เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้
  • หลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น อาหารดิบ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด เพื่อป้องกันการอักเสบและช่วยให้ฟื้นตัวไวขึ้น
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการบวมและช้ำบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครบ 3 วันแล้วอาการบวมแดงยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการบวมมากกว่าเดิม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการเพิ่มเติมทันที

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 เดือน

  • งดเลเซอร์ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์ถูกทำลายหรือเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิม
  • งดสูบบุหรี่ เพื่อให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้ดีและอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟู และอยู่ได้นานขึ้น

ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ภาพ infographic อธิบายข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรระวังพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง และช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว เช่น

  • งดสัมผัสบริเวณรอบดวงตา

ในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการเจ็บหรือคันเล็กน้อย ควรระมัดระวังไม่ให้เอามือไปขยี้ตา เกา กด นวด หรือสัมผัสบริเวณรอบดวงตา เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดง หรือทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งอื่นได้ 

  • งดบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สารในแอลกอฮอล์และบุหรี่ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดสูบฉีด ผิวฟื้นตัวได้ไม่ดี ส่งผลให้รอยแดงและอาการบวมหายช้าลง นอกจากนี้ยังขัดขวางกระบวนการสมานแผลและการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร 

  • หลีกเลี่ยงความร้อน

พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนทุกรูปแบบ เช่น การทำกิจกรรมที่ต้องเผชิญแสงแดดจ้า การทำเลเซอร์ร้อนลงผิว ซาวน่า อบไอน้ำ รวมถึงการทานอาหารหน้าเตาที่มีความร้อนสูง เช่น ปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูป หรือสลายตัวเร็วกว่าปกติ อีกทั้งยังอาจทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดเกิดการระคายเคืองได้ด้วย

  • หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้าเยอะๆ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในช่วง 2 สัปดาห์แรก ฟิลเลอร์จะยังไม่เข้าที่ ควรหลีกเลี่ยงการขยับใบหน้า หรือแสดงอารมณ์ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตามาก ๆ เช่น การหรี่ตา ขยิบตา หรือยิ้มกว้าง ๆ จนตาหยี เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนผิดตำแหน่งได้

อาหารที่ควรเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ภาพ infographic อธิบาย อาหารที่ควรเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใส่ใจเรื่องการทานอาหารให้มากขึ้น เพราะอาหารบางชนิดอาจไปกระตุ้นการอักเสบ ทำให้อาการบวม แดง หายช้า โดยสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังต่อไปนี้

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะส่งผลโดยตรงต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัว และมีการสูบฉีดเลือดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้รอยแดง และอาการบวมบริเวณใต้ตาหายช้าลง จึงควรงดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

ควรงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด เช่น กาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มชูกำลัง อย่างน้อย 2 – 3 วัน เพราะคาเฟอีนเป็นตัวกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และยังกระตุ้นการขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้

  • อาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ 

ควรทานอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ ผ่านความร้อนจนทั่ว และงดอาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ซาชิมิ ยำปูทะเล ตำกุ้งสด ก้อยเนื้อ ซอยจุ๊ เพราะอาหารเหล่านี้อาจมีพยาธิหรือเชื้อโรคปนเปื้อน เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ

  • อาหารหมักดอง 

ควรงดอาหารหมักดองทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลดอง ผักดอง หรือผลไม้ดอง เพราะกระบวนการหมักต้องใช้เกลือในปริมาณมาก ทำให้อาหารมีโซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้ นอกจากนี้ หากกรรมวิธีการผลิตไม่สะอาด อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการอักเสบตามมาได้

  • อาหารรสจัด 

ควรงดการทานอาหารที่มีรสเค็มจัดและเผ็ดจัด เพราะอาหารเหล่านี้อาจทำให้เหงื่อไหลไปสัมผัสบริเวณใต้ตา ซึ่งหากแผลยังปิดไม่สนิท อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ นอกจากนี้ รสเค็มและเผ็ดยังอาจทำให้อาการบวมหายช้าลงอีกด้วย

  • อาหารที่มีน้ำตาลสูง 

อาหารที่มีน้ำตาลปริมาณมาก เช่น เค้ก ไอศกรีม หรือน้ำอัดลม จะไปกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลหายช้า และอาจเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อตามมา

  • อาหารที่ต้องนั่งทานหน้าเตาร้อน ๆ 

ความร้อนจากเตาอาจทำให้ฟิลเลอร์ละลายและไหลไปยังบริเวณอื่น ส่งผลให้ผลลัพธ์ผิดไปจากที่ต้องการ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารหน้าเตาประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่ในช่วงแรกอาจมีอาการบวมเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ และเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่หลังจากผ่านไป 4-5 วัน อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ และเห็นผลลัพธ์ในช่วง 2-4 สัปดาห์

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉลี่ยจะคงอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิวของแต่ละบุคคล ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและเหมาะสม ก็จะช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์ให้คงอยู่ได้นานขึ้น

ผลข้างเคียงที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีรอยเข็มเล็ก ๆ และรอยแดงหรือรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยรอยเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน สำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการกดนวด แกะ เกา หรือขยี้บริเวณใต้ตา เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือทำให้เกิดการอักเสบได้

หากอาการไม่ดีขึ้นหลังผ่านไป 3 วัน หรือพบความผิดปกติ เช่น บวมแดงรุนแรงขึ้น ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กและรับการรักษาเพิ่มเติมทันที

ผลข้างเคียงรุนแรงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (พบได้น้อย)

ผลข้างเคียงรุนแรงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจเกิดขึ้นได้ แต่ค่อนข้างพบได้น้อย เช่น การติดเชื้อที่อาจเกิดจากการใช้ขั้นตอนหรือเครื่องมือที่ไม่สะอาด ทำให้เชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป หรือการแพ้ฟิลเลอร์ ซึ่งมักเกิดในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ใช่สารไฮยาลูรอนิค แต่เป็นสารอื่น เช่น ซิลิโคนเหลว

อาจมีอาการผื่นขึ้น เป็นตุ่มนูนแดง หนังตาบวม ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรก หรือหลังฉีดเป็นเดือนก็ได้ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

การเลือกคลินิกและแพทย์สำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ภาพ infographic อธิบาย การเลือกคลินิกและแพทย์สำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาออกมาดีและปลอดภัยจากผลข้างเคียงที่อันตราย ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงได้แก่

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ โดยควรมีใบอนุญาตในการประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ครบครันและทันสมัย พร้อมทั้งผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ คลินิกควรตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจนและสามารถติดต่อได้ง่าย
  • แพทย์มีความชำนาญ ควรมีใบประกอบวิชาชีพถูกต้อง และมีความรู้ความสามารถ เข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาคโครงสร้างใบหน้าและเทคนิคการฉีดเป็นอย่างดี เนื่องจากแพทย์ผิวหนังหรือศัลยแพทย์ตกแต่งจะมีความรู้ด้านนี้มากที่สุด เพราะหากฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์หรือแพทย์ที่มีความชำนาญไม่เพียงพอ อาจทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันในเส้นเลือดจนทำให้เกิดอันตราย และทำให้ใต้ตาบวมแดงเป็นก้อนได้
  • ฟิลเลอร์แท้ ตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่คลินิกนำมาใช้เป็นของแท้ที่ได้มาตรฐาน และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ควรให้แพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ใหม่ต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง ห้ามฉีดสารชนิดอื่นที่ไม่ใช่สารไฮยาลูรอนิค เพราะอาจทำให้เกิดการแพ้ อักเสบ และไม่สามารถสลายได้ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สารเหล่านี้อาจจับตัวเป็นก้อนและทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาวได้
  • รีวิวที่น่าเชื่อถือ เลือกคลินิกโดยการสอบถามจากผู้ที่เคยใช้บริการ หรือดูรีวิวจากหลายแหล่งเพื่อความน่าเชื่อถือ เช่น รีวิวบน Google Maps, เว็บไซต์ Pantip หรือใน Facebook Fanpage เพราะบางครั้งรีวิวที่คลินิกนำเสนออาจเน้นเฉพาะด้านดีเท่านั้น การศึกษาความเห็นจากแหล่งข้อมูลหลากหลายจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนและเป็นธรรมมากขึ้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถนอนราบได้ตอนไหน?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถนอนราบได้ และเป็นสิ่งที่ควรทำโดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีด แนะนำให้นอนหนุนหมอนให้สูงขึ้น ยกศีรษะให้สูงกว่าหน้าอก เพื่อช่วยลดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณรอบดวงตา ทำให้อาการบวมลดลง และอาจใช้หมอนกั้นด้านข้างเพื่อป้องกันการเผลอพลิกตัวระหว่างนอนหลับ

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใส่คอนแทคเลนส์ได้ไหม?

ควรงดการใส่คอนแทคเลนส์ในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แนะนำให้ใส่แว่นแทนในช่วงนี้ เนื่องจากการใส่คอนแทคเลนส์ต้องใช้มือสัมผัสบริเวณรอบดวงตา และอาจทำให้เกิดการเกร็งรอบดวงตา ซึ่งเสี่ยงต่อการระคายเคือง อักเสบ หรือทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ เมื่ออาการบวมลดลงและฟิลเลอร์เข้าที่ดีแล้ว จึงสามารถกลับมาใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทาอายครีมได้ไหม?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรงดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน เพราะแผลที่ยังไม่สมานดีอาจเกิดการติดเชื้อได้ อีกทั้งสารบางชนิดในครีม เช่น น้ำหอม, สี หรือสารเคมีต่าง ๆ ยังอาจทำให้ผิวระคายเคืองเพิ่ม เกิดอาการบวม แดง ทำให้ผิวต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้น

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะแต่งหน้าจัดเต็มได้เมื่อไหร่?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครบ 1 ชั่วโมง สามารถลอกพลาสเตอร์ที่แปะแผลออกและแต่งหน้าได้ แต่ควรแต่งหน้าเบา ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด หรือถ้าหลีกเลี่ยงการแต่งบริเวณใต้ตาได้ก็จะดียิ่งขึ้น หลังจากพ้น 48 ชั่วโมงไปแล้ว สามารถแต่งหน้าแบบจัดเต็มได้ตามปกติ แต่ต้องไม่ลืมทำความสะอาดผิวให้หมดจด โดยใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนและล้างอย่างเบามือ 

  • เดินทางโดยเครื่องบินหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้ไหม?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบินจริง ๆ สามารถทำได้ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ควรเว้นไปก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะเมื่อเครื่องบินอยู่บนความสูง ความกดอากาศจะลดลง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งอาจทำให้อาการบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพิ่มขึ้นได้

สรุป

สรุปแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่ช่วยให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟูและสดใสยิ่งขึ้น แต่ผลลัพธ์จะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้ตา หลีกเลี่ยงความร้อน งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงระมัดระวังเรื่องอาหารบางชนิด เพื่อจะลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาออกมาเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน