โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตา รวมถึงปัญหาตาลึก ตาโหล ขอบตาหมองคล้ำ และถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ได้แบบมีประสิทธิภาพ
แต่สิ่งที่หลายคนกังวลคือจะฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี เพราะมีให้เลือกหลายยี่ห้อ ในบทความนี้ เรา Amarante Clinic เลยเตรียมข้อมูลที่น่าสนใจมาฝาก ทั้งข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี? ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? ตามมาดูกัน
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี?
การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะ นอกจากต้องดูที่ยี่ห้อ คุณสมบัติและส่วนประกอบแล้ว ยังต้องดูรวมถึงปัจจัยของแต่ละบุคคลด้วย เช่น ปัญหาผิว อายุ หรือโครงสร้างใบหน้า ไม่ควรเลือกตามกระแสหรือตามคนอื่นอย่างเดียว เพราะการมีให้เลือกเยอะก็ถือเป็นข้อดี ทำให้สามารถเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคนได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? ควรศึกษาข้อมูลและคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อให้ละเอียด ดังนี้
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm
ถามว่าฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? คำตอบที่มักจะเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ก็คือยี่ห้อ Juvederm ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan จากสหรัฐอเมริกา ด้วยเทคโนโลยี Hylacross Technology และ Vycross Technology ในการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์มีโครงสร้างที่หนาแน่น อยู่ได้นาน สลายตัวช้า และยืดหยุ่นได้สูง ทนต่อการขยับได้ดี เหมาะกับการฉีดใต้ตา ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ลดความหมองคล้ำและริ้วรอย ช่วยให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ ฟิลเลอร์ Juvederm ยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ว่ามีความปลอดภัยสูง สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ
รุ่นของยี่ห้อฟิลเลอร์ Juvederm มีดังนี้
- Juvederm Volite เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Volux สำหรับคนที่มีปัญหาตาลึก ตาโหล จะใช้ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี แนะนำ Juvederm รุ่น Volux เพราะเหมาะกับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก เนื้อแข็ง คงตัวดี มีความยืดหยุ่น อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเสริมกระดูกใต้ตาได้ดีเหมือนกัน ทำให้ใต้ตาอิ่มฟู โมเลกุลมีขนาดใหญ่ เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง และสามารถอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
- Juvederm Ultra XC ใต้ตาคล้ำใช้ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? แนะนำ Juvederm รุ่น Ultra XC เนื้อนิ่ม อุ้มน้ำได้มาก ช่วยให้ใต้ตาชุ่มชื้น และลดรอยคล้ำได้ดี ทั้งยังอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volift เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง สามารถช่วยลดริ้วรอยได้ดี และยังให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Juvederm ดีไหม? ทำไมใคร ๆ ก็เลือกใช้
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? Restylane เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลก ผลิตโดยบริษัท Galderma จากสวีเดน ใช้เทคโนโลยี NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) และ OBT (Optimal Balance Technology) ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียดและยืดหยุ่นสูง เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ ลดความเสี่ยงต่อการแพ้และการติดเชื้อ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ Restylane มีหลายรุ่นให้เลือก สามารถใช้ได้หลากหลาย ทั้งบริเวณใต้ตาและจุดต่าง ๆ ทั่วใบหน้า สามารถเลือกรุ่นให้เหมาะกับความต้องการได้ ดังนี้
- Restylane Classic เนื้อเจลอนุภาคใหญ่ แข็งปานกลาง เหมาะสำหรับฉีดผิวชั้นลึก แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ระดับปานกลางถึงมาก โดยสามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Perlane Lyft เนื้อแข็ง แน่น และมีความคงตัวสูง ฉีดแล้วไม่ฟู สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Defyne เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมเต็มและยกกระชับใต้ตา อยู่ได้นานถึง 18 เดือน
- Restylane Vital ริ้วรอยใต้ตาไม่เยอะใช้ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? แนะนำ Restylane รุ่น Vital เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วผิวดูเรียบเนียน อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Vital Light ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะกับคนผิวบาง แนะนำ Restylane รุ่น Vital Light เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่เนื้อละเอียดสุดของยี่ห้อนี้ มีความเข้มข้นของไฮยาลูรอนิกน้อย ทำให้ฉีดแล้วดูธรรมชาติ โอกาสเป็นก้อนต่ำ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Restylane คืออะไร? ดีไหม?
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero
Belotero แบรนด์ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ที่เด่นในเรื่องความยืดหยุ่นและความคงตัวของฟิลเลอร์
ใครที่มองหาฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีที่ราคาไม่สูงมาก Belotero ก็เป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจ แม้ว่าราคาของ Belotero จะต่ำกว่ายี่ห้ออื่น แต่ก็ยังคงมีประสิทธิภาพสูงและได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย. (องค์การอาหารและยา) มี 3 รุ่นให้เลือก ดังนี้
- Belotero Volume เนื้อแข็งแต่ยืดหยุ่น มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Soft โมเลกุลเล็ก เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้น ๆ และสามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อสัมผัสละเอียด และเสริมด้วยส่วนประกอบของกลีเซอรอลที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 6-9 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Belotero คืออะไร? ดีไหม?
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ E.P.T.Q FILLER
ถ้ากำลังหาฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีจากฝั่งเอเชีย ฟิลเลอร์ E.P.T.Q จากเกาหลีเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะได้รับการรับรองจาก อย. รวมถึง U.S. FDA และ EDQM ด้วยการใช้เทคโนโลยี 2CM (Two Crosslinking Method Technology) ในการผลิต ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความเข้มข้นสูง โครงสร้างแข็งแรง และยืดหยุ่นได้ดี เหมาะสำหรับใช้กับบริเวณใต้ตาเพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
E.P.T.Q มีฟิลเลอร์หลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- E.P.T.Q S100 มีเนื้อฟิลเลอร์ที่ละเอียดและอนุภาคเล็ก ให้ผลลัพธ์ที่ฟูมาก เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นตื้น เพื่อลดริ้วรอยและปรับสภาพผิว โดยสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
- E.P.T.Q S300 มีเนื้อนิ่มและยืดหยุ่นดี เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นกลางและชั้นลึก เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย สามารถอยู่ได้นานประมาณ 8 เดือน
E.P.T.Q S500 มีเนื้อที่แน่นและคงตัวดี ฉีดแล้วไม่ฟู เหมาะสำหรับฉีดในชั้นกระดูก เพื่อช่วยยกกระชับและแก้ปัญหาร่องลึก สามารถคงอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Yvoire
Yvoire ยี่ห้อฟิลเลอร์ ที่ผลิตโดยบริษัท LG Chem จากเกาหลีใต้ บริษัทเคมีภัณฑ์ที่ถนัดในการผลิต HA มานานกว่า 25 ปี ด้วยการใช้เทคโนโลยี HICE Cross-linking Technology ที่ช่วยลดการใช้สาร BDDE ทำให้ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพกับความคงตัวที่นานเมื่อฉีดเข้าสู่ผิว แถมช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพ้ โมเลกุลของฟิลเลอร์เชื่อมกันแน่น มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วผิวเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน มีรุ่นให้เลือกตามความต้องการ ดังนี้
- Yvoire Classic Plus เนื้อฟิลเลอร์ละเอียดที่สุดใน 3 รุ่น เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นบน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ โดยสามารถอยู่ได้นาน 6-9 เดือน
- Yvoire Volume Plus มีโมเลกุลขนาดกลาง เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นกลาง เพื่อทำให้ใต้ตาดูอิ่มฟูและสดใส โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 9-12 เดือน
Yvoire Contour ประกอบด้วยโมเลกุล 2 ขนาด โดยโมเลกุลใหญ่ช่วยยกกระชับใต้ผิว ขณะที่โมเลกุลเล็กช่วยเติมเต็มช่องว่าง เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นลึก สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Flore
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีที่ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติสูง แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ Flore จากประเทศเกาหลี โดยใช้เทคโนโลยี HCCL ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลเล็กและละเอียด สามารถกระจายตัวได้สม่ำเสมอในผิว ให้ผลลัพธ์ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผิว และสามารถอยู่ในชั้นผิวได้นาน มี 3 รุ่นให้เลือกตามการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่
- Flore Aqua-S มีเนื้อนิ่มบางเบา เหมาะสำหรับการเก็บเส้นริ้วรอยเล็ก ๆ หรือปรับสภาพผิวใต้ตาให้ดูชุ่มชื้น สุขภาพดี สามารถอยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- Flore S มีเนื้อนิ่ม แน่น เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นตื้น ช่วยลดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ตาได้ดี สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
Flore N มีโมเลกุลขนาดกลาง ยืดหยุ่นและคงตัวดี เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องลึกในระดับปานกลาง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Neuramis
ใครมีงบไม่มากและกำลังหาฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อที่มีคุณภาพ Neuramis ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไฮยาลูรอนิกที่ใช้ในการผลิตมาจากบริษัท Shiseido บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำจากญี่ปุ่น โดยใช้เทคโนโลยี SHAPE ในการผลิต ช่วยให้ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้นาน เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการดูแลใต้ตา มีรุ่นที่เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวใต้ตาและริ้วรอย ดังนี้
- Neuramis Deep มีเนื้อฟิลเลอร์ที่นิ่มปานกลาง คงตัวดี ฉีดแล้วทำให้ผิวอิ่มฟู รุ่นนี้ไม่มีส่วนผสมของยาชา จึงเหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นลึก คงผลลัพธ์ได้นาน 6-8 เดือน
- Neuramis Deep Lidocaine มีคุณสมบัติคล้ายกับรุ่น Deep แต่เพิ่มส่วนผสมของยาชาเข้ามา เพื่อช่วยลดความเจ็บขณะฉีด ทำให้การรักษาสบายยิ่งขึ้น สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
Neuramis Volume Lidocaine มีเนื้อฟิลเลอร์ที่แข็งกว่ารุ่นอื่น ๆ แต่ยังคงความยืดหยุ่นดีและมีความคงตัวสูง ฉีดแล้วกลืนไปกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหน เหมาะกับใคร?
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อเหมาะสำหรับการใช้ในกรณีที่แตกต่างกัน การพิจารณาเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
พิจารณาจากปัญหาใต้ตา
หากมีปัญหาใต้ตา ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? คงต้องดูจากปัญหาเป็นหลัก เช่น สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเบ้าตาลึก เหมาะสำหรับฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งและคงรูปดี เพื่อฉีดเสริมในชั้นลึก ฟิลเลอร์ประเภทนี้จะช่วยเติมเต็มเบ้าตาและยกกระชับให้ดูอิ่มฟูขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวหรือผิดรูปหลังฉีด
พิจารณาจากสภาพผิว
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ต้องดูที่สภาพผิวด้วย เช่น ต้องการแก้ปัญหาในผิวชั้นตื้น เช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรอยคล้ำใต้ตา ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม เพื่อให้สามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอและไม่เกิดเป็นก้อน ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียนมากขึ้น
พิจารณาจากผลลัพธ์ที่ต้องการ
การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาที่ต้องการแก้ไข เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน บางรุ่นเน้นยกกระชับผิว บางรุ่นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับผิวให้เรียบเนียน ลดริ้วรอย หรือทำให้ผิวใต้ตาดูกระจ่างใสมากขึ้น ดังนั้น การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตาของแต่ละคนจะอยู่ที่ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ราคาฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ
การเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีที่เหมาะสม ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่คุณสมบัติของฟิลเลอร์เท่านั้น แต่ราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเช่นกัน คนส่วนใหญ่มักจะเลือกฟิลเลอร์ตามงบประมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีราคาที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm ใช้เทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความหนืดและคงตัวสูง สามารถเติมเต็มร่องลึกได้อย่างเรียบเนียนและยืดหยุ่นสูง ราคาประมาณ 12,000 – 18,000 บาท / CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane มีความบริสุทธิ์และมาตรฐานสูง ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นตามคุณภาพ ราคาประมาณ 10,000 – 17,000 บาท / CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero ใช้เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) เน้นการสร้างเนื้อฟิลเลอร์ที่ละเอียด ช่วยให้กลมกลืนกับผิวและกระจายตัวได้ดี มีราคาประมาณ 10,000 – 14,000 บาท / CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ E.P.T.Q ต้นทุนต่ำ แต่มีมาตรฐานการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ราคาประมาณ 8,000 – 10,000 บาท / CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Yvoire ใช้เทคโนโลยี HICE (High Concentration of Cross-linking Efficiency) ช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและอยู่ได้นานขึ้น ราคาประมาณ 8,000 – 12,000 บาท / CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Flore ใช้เทคโนโลยีเน้นความบริสุทธิ์และความยืดหยุ่น ราคาย่อมเยาเพราะผลิตในประเทศเกาหลี ราคาประมาณ 7,000 – 10,000 บาท / CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Neuramis ใช้เทคโนโลยี SHAPE (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement) ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ในร่างกายได้นานขึ้น ราคาประมาณ 8,000 – 10,000 บาท / CC
ราคาที่ให้มานี้เป็นราคาโดยประมาณ อาจแตกต่างกันในแต่ละสถานพยาบาล และยังไม่รวมค่าบริการหรือค่าแพทย์ ที่ก็มีส่วนสำคัญต่อค่าใช้จ่ายโดยรวมด้วย
วิธีเช็คฟิลเลอร์ใต้ตาของแท้และปลอม
เมื่อตัดสินใจเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบฟิลเลอร์ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม โดยการตรวจสอบเบื้องต้นสามารถทำได้ตามวิธีดังนี้
- บรรจุภัณฑ์ต้องปิดสนิทและไม่ผ่านการเปิดมาก่อน หากพบร่องรอยของการเปิด ควรระมัดระวังและสันนิษฐานว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ผ่านการใช้มาก่อน หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมอาจมีอาการแพ้รุนแรง หรือผลข้างเคียงที่ไม่สามารถแก้ไขได้
- ตัวหนังสือบนกล่องต้องชัดเจน อ่านง่าย และสะกดถูกต้อง ไม่มีการพิมพ์ผิดหรือรอยจางที่อาจบ่งบอกถึงของปลอม
- ตรวจสอบว่าเลข อย. กำกับบนกล่องถูกต้องและสามารถค้นหาข้อมูลได้จริงบนเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ควรมีรายละเอียดที่ครบถ้วน เช่น ชื่อบริษัทที่ผลิต เลข Lot. วันที่ผลิต และวันหมดอายุ
- ฟิลเลอร์ที่นำเข้ามาอย่างถูกต้องต้องมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ในประเทศ
- เลข Lot. บนกล่องต้องตรงกับเลข Lot. ที่ปรากฏบนซองหรือบนหลอดฟิลเลอร์ หากไม่ตรงกัน อาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติได้
- ขอดูใบรับรองจากบริษัท หรือการโทรสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่ายโดยตรง
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอม
หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? ควรเลือกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก อย. เพราะการฉีดฟิลเลอร์ปลอมหรือสารชนิดอื่นที่ไม่ใช่ไฮยาลูรอนิก เช่น ซิลิโคนเหลวหรือพาราฟิน มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น อาการแพ้ อักเสบ ทำให้ใต้ตาบวม เป็นก้อน นูนแดง มีหนอง รวมถึงการติดเชื้อทำให้เกิดแผลเป็น รอยสีผิวที่หายยาก หรือเนื้อเยื่อที่ตายจากการขาดเลือด
สารเหล่านี้ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และอาจไหลย้อยหรือจับตัวเป็นก้อนเมื่อเวลาผ่านไป การเอาออกจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งต่างจากฟิลเลอร์แท้ที่สามารถฉีดสลายได้อย่างปลอดภัยหากเกิดปัญหา
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? อะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี? เลือกยังไงให้ปลอดภัย
นอกจากจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? การเลือกคลินิกที่จะฉีดก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้
เลือกคลินิกที่มาตรฐาน มีใบอนุญาต
เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก อุปกรณ์เครื่องมือทันสมัยได้มาตรฐาน สถานที่และอุปกรณ์ต้องมีความสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง หากเป็นคลินิกที่มีฟิลเลอร์ให้เลือกหลายยี่ห้อ จะสามารถเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดีที่เหมาะสม และตรงกับความต้องการ
แพทย์มีความชำนาญ มีประสบการณ์
ตรวจเช็คใบรับรองหรือวุฒิบัตรของแพทย์ว่ามีทักษะและประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย นอกจากนี้ แพทย์ที่มีความชำนาญยังสามารถจัดการกับปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรเลือกแพทย์ที่ได้รับการรับรองและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่าน อย.
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดต้องเป็นของแท้และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดี นอกจากนี้ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ควรแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อยืนยันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่เคยผ่านการใช้มาก่อน อีกทั้งผู้รับบริการยังสามารถขอกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้ เพื่อเป็นหลักฐานและมั่นใจได้ว่าได้รับฟิลเลอร์ของแท้ที่ปลอดภัย
รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกหรือแพทย์สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ ควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจากหลาย ๆ แหล่ง เช่น รีวิวบน Google Maps หรือบน Facebook Fanpage เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นกลางและรอบด้าน ไม่ควรพิจารณาจากเคสรีวิวที่ทางคลินิกนำเสนอเพียงอย่างเดียว เพราะอาจมีการคัดเลือกเฉพาะเคสที่ดีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังต้องระวังการโฆษณาที่เกินจริง หรือข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด การหาข้อมูลอย่างรอบคอบจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น
การดูแลหลังการฉีด
หากกำลังตัดสินใจจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? การเลือกคลินิกที่มีการติดตามผลและให้คำแนะนำในการดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกคลินิกที่ใส่ใจในการติดตามผลลัพธ์และมีการให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่องหลังการฉีด เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวังและสามารถจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันที
นอกจากนี้ ควรเลือกคลินิกที่มีช่องทางติดต่อหลากหลาย เช่น โทรศัพท์, ไลน์, หรือแชทออนไลน์ เพื่อให้สามารถติดต่อได้อย่างสะดวกในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือเกิดปัญหาหลังการฉีด
สรุป
สรุปแล้วการจะเลือก ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี? ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยต้องคำนึงถึงปัญหาใต้ตาที่ต้องการแก้ไข ผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงงบประมาณที่มี ถ้าไม่แน่ใจว่าควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีความรู้และชำนาญการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา เพื่อให้สามารถเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ และปลอดภัยตามมาตรฐานที่ควรได้รับ
การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์คือสิ่งสำคัญ ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง แพทย์ต้องมีความชำนาญ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ศึกษารีวิวจากผู้ใช้บริการ และตรวจสอบว่าคลินิกมีบริการติดตามผลหลังฉีดเพื่อความปลอดภัย