ปัญหาใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นร่องใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำโทรม ริ้วรอยรอบดวงตา หรือแม้แต่ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยก็สร้างความหนักใจให้หลาย ๆ คนไม่น้อย เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูโทรมไม่สดใส หรือดูมีอายุกว่าที่เป็นแล้ว ยังอาจต้องเสียเวลาแต่งหน้าเพื่อกลบจุดบกพร่องเหล่านี้ให้เด่นชัดน้อยลงอีกด้วย และหนึ่งในตัวช่วยที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อยู่หมัดก็คือ “ ฟิลเลอร์ใต้ตา ”
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่อาศัย Hyaluronic Acid ในการช่วยเติมเต็มผิวที่บกพร่องได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันที และไม่ต้องอาศัยระยะเวลาพักฟื้น แต่ด้วยความที่ Hyaluronic Acid สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และหนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ” แต่ละยี่ห้อมีอายุอยู่ได้นานมากน้อยแค่ไหน และจะมีวิธีไหนที่จะสามารถยืดอายุฟิลเลอร์ได้บ้างหรือไม่ วันนี้เรารวบรวมมาให้แล้ว ตามมาอ่านกันได้เลย
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน
ถ้าถามว่า ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ก็ตอบได้เลยว่าโดยปกติแล้วฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid หรือฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานสามารถอยู่ในร่างกายของเราเฉลี่ยประมาณ 12 เดือน ขณะที่บางรุ่นอาจอยู่นานเพียง 6 เดือน หรือบางรุ่นนานถึง 18 เดือนก็มี ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อว่ามีความยืดหยุ่นและคงตัวมากน้อยแค่ไหน หรือถูกนำมาฉีดในบริเวณจุดไหนของใบหน้าและร่างกาย
นอกจากนี้การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละบุคคลก็ปัจจัยสำคัญต่ออายุการใช้งานของฟิลเลอร์อีกด้วย เพราะถ้าหากดูแลตัวเองไม่เหมาะสม เช่น สัมผัสแดดจัดบ่อย สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีโอกาสทำให้ฟิลลเอร์เสื่อมสภาพและสลายไวกว่าเวลาที่กำหนดไว้ได้
ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ 3 ยี่ห้อดัง
สำหรับใครที่ยังสงสัยอยู้ว่า ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ถ้าแยกตามรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์นั้น สามารถดูรายละเอียดดังต่อไปนี้ได้เลย
Restylane (สวีเดน)
สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ยี่ห้อแรกของโลกเป็นสัญชาติสวีเดนที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานว่าใช้เติมเต็มผิวที่บกพร่อง กลบร่องลึกต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย โดยรุ่นฟิลเลอร์ Restylane ที่เหมาะสำหรับเติมเต็มใต้ตามีดังนี้
- Restylane Classic
รุ่นออริจินัล มีเนื้อฟิลเลอร์แข็งปานกลาง เหมาะสำหรับฉีดร่องใต้ตาตื้น ๆ หรือฉีดเติมเต็มผิวชั้นลึกในผู้ที่มีสภาพผิวบาง โดยสามารถอยู่ได้นานสูงสุด 12เดือน
- Restylane Vital Light
ฟิลเลอร์ใต้ตาสัญชาติสวีเดนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วกลืนไปกับผิว เน้นใช้เป็นสกินบูสเตอร์เพิ่มความชุ่มชื้น และเก็บรายละเอียดผิวเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นผิวชั้นตื้นบริเวณใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นานสูงสุด 6-12 เดือน
- Restylane Lyft
เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นลึก หรือแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ใต้ตาทรุดได้ โดยอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
- Restylane Defyne
ฟิลเลอร์สวีเดนที่มีความแข็งแรงปานกลางอีกหนึ่งรุ่น สามารถช่วยเติมเต็มผิวชั้นลึกได้ โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาชั้นลึก และ midface โดยอยู่ได้นานสูงสุด 18 เดือน
Juvederm (อเมริกา)
ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยจาก USFDA และอย. ไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของเดียวกับยี่ห้อโบท็อกซ์ Allergan โดยมีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายรุ่นและรุ่นที่เหมาะสำหรับเติมเต็มใต้ตา มีดังนี้
- Juvederm Ultra plus
ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริการุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดในการนำมาฉีดเติมเต็มผิวบริเวณใต้ตา เพราะเนื้อฟิลเลอร์มีความนุ่มและฟูสูง สามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาลึก และเก็บรายละเอียดผิวด้านบนได้ โดยอยู่ได้นานสูงสุด 12 เดือน
- Juvederm Volite
ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถใช้ฉีดใต้ตาไปพร้อม ๆ กับฉีดเป็นสกินบูสเตอร์เพิ่มความชุ่มชื้นอิ่มน้ำให้แก่ผิวได้ โดยอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์เนื้อแข็งระดับปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง นิยมใช้ฉีดใต้ตาชั้นลึก หรือเติมเต็มร่องลึกในจุดอื่น ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ขมับ โดยอยู่ได้นาน 18 เดือน
Belotero (สวิตเซอร์แลนด์)
ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์เป็นฟิลเลอร์เจ้าของเดียวกันวัตกรรมยกกระชับระดับ Gold Standard อย่าง Ulthera และโบเยอรมัน XEOMIN ซึ่งโดดเด่นด้วยนวัตกรรมการผลิตที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับเติมเต็มผิวได้หลากหลายจุด โดยมีรุ่นที่เหมาะสำหรับเติมเต็มใต้ตา ดังนี้
- Belotero Soft
ฟิลเลอร์กล่องสีเหลือง เนื้อละเอียดที่สุด สามารถช่วยเติมเต็มบริเวณผิวที่มีความบางอย่างใต้ตาได้อย่างตรงจุด และสามารถใช้ฉีดทั่วใบหน้าเพื่อเพิ่มความฉ่ำวาวได้เช่นกัน โดยมีอายุประมาณ 6-12 เดือน
- Belotero Volume
ฟิลเลอร์กล่องสีม่วงมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเพิ่มปริมาตรผิว โดยเฉพาะบริเวณใต้ตาที่ทรุดจนเป็นแอ่งลึก ใช้ฉีดเสริมใต้ตาชั้นลึกได้ ซึ่งมีอายุอยู่ได้นานสูงสุด 12-18 เดือน
- Belotero Balance
ฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อละเอียด ช่วยเกลี่ยผิวใต้ตาชั้นบนให้เรียบเนียนและดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้นได้ โดยมีอายุราว ๆ 12-18 เดือน
เปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์มีผลต่อระยะเวลาอยู่ตัวไหม
จะเห็นได้ว่ามีฟิลเลอร์สำหรับเติมเต็มใต้ตาหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ซึ่งนอกจะกังวลเรื่องผลลัพธ์ว่าฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือนแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะกังวลว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่ถ้าต้องการเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด ขอบอกเลยว่าไม่มีผล หรือไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด
เพียงแต่ขอแนะนำว่าให้เว้นระยะห่างในการฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้งอย่างน้อย 6-12 เดือนจะดีที่สุด เพื่อให้ฟิลเลอร์เดิมสลายหมดเสียก่อน หรือเข้ารับการปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อการออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
ฟิลเลอร์ที่ถูกนำมาใช้เติมเต็มใต้ตาจะต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากอย. แล้วเท่านั้น ฉะนั้นถ้าถามว่าการเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ส่งผลอะไรหรือไม่นั้น ก็สามารถตอบได้ว่าไม่ส่งผลเสียต่อผลลัพธ์ หรือก่อให้เกิดอันตรายหลังฉีดแต่อย่างใด
แนะนำว่าหากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ ควรเว้นระยะห่างในการฉีดที่เหมาะสมก่อน เพื่อเป็นการป้องกันการฉีดทับฟิลเลอร์เก่า โดยพิจารณาจากระยะการคงอยู่ของฟิลเลอร์แต่ละชนิด นอกจากนี้ควรแจ้งประวัติการฉีดฟิลเลอร์แก่แพทย์ทราบด้วยว่าเคยฉีดฟิลเลอร์รุ่นไหน หรือฉีดมานานเท่าไหร่ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินสภาพผิวว่าสามารถฉีดฟิลเลอร์ซ้ำ หรือเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ได้หรือไม่
ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาอยู่ตัวของฟิลเลอร์ใต้ตา
ระยะเวลาผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือนนั้นไม่เพียงแต่จะขึ้นอยู่กับรุ่น หรือยี่ห้อฟิลเลอร์เท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาอยู่ตัวของฟิลเลอร์ ดังนี้
คุณสมบัติของฟิลเลอร์แต่ละชนิด
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีการออกแบบเนื้อฟิลเลอร์เพื่อให้มีคุณสมบัติการเติมเต็มผิวที่แตกต่างกันไปอย่างในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเห็นได้ว่ามักมีฟิลเลอร์อยู่ 2 ประเภท คือเนื้อแข็งที่อาจมีความคงตัวระดับปานกลาง และเนื้อนิ่มเนื้อละเอียด
โดยเนื้อแข็งจะเหมาะสำหรับเติมเต็มผิวชั้นลึก ทำให้มีระยเวลาอยู่ตัวของฟิลเลอร์ที่นานกว่า ขณะที่ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม หรือเนื้อที่มีความละเอียดที่ใช้ฉีดผิวในชั้นตื้นก็จะมีอายุที่สั้นกว่าแทน
พฤติกรรมและการดูแลตัวเองหลังฉีด
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เหมาะสม และดูแลตัวเองหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น หมั่นคงความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่เสมอ งดการสูบบุหรี่ เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด หรือความร้อนโดยตรง ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายแล้ว ยังสามารถช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ให้อยู่กับเราได้นานขึ้นอีกด้วยค่ะ
ดูแลตัวเองหลังฉีดเพื่อยืดอายุฟิลเลอร์ใต้ตา
เพื่อเป็นการยืดอายุฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้นาน และป้องกันผลข้างเคียง หรืออาการแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย เราขอแนะนำว่าให้ดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ดังนี้
ข้อปฏิบัติช่วง 3 วันแรกหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา นวด คลึง บีบ หรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปจุดอื่น หรือเกิดการติดเชื้อบริเวณรอยเข็มได้
- ในช่วง 2-3 วันแรก อาจมีอาการบวม แดง หรือปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถประคบเย็น หรือทานยาตามที่แพทย์สั่งได้
- เลี่ยงการสัมผัสแสงแดด และกิจกรรมที่ใช้ความร้อน หรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เหงื่อออกเยอะ เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24-72 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์
- งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เสื่อมสภาพ
- เลี่ยงการทาครีม สกินแคร์ หรือแต่งหน้าทับรูเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์
การดูแลระยะยาวให้ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นาน
เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ฉะนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุฟิลเลอร์ให้อิ่มฟูยาวนานมากที่สุด
แนะนำว่าควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อคงสภาพฟิลเลอร์ ขณะเดียวกันฟิลเลอร์ก็ไวต่อความร้อน หรือสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง จึงควรเลี่ยงการสัมผัสแดดจัด หรือทำกิจกรรมที่ใช้ความร้อน ไม่ว่าจะเป็นการซาวน่าก็ดี การล้างด้วยน้ำอุ่นก็ดี หรือแม้แต่การนั่งหน้าเตาหมูกระทะ ชาบู เป็นต้น
สรุป
เรียกได้ว่าฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะสามารถช่วยเรียกคืนความอ่อนเยาว์และสดใสให้ใบหน้าได้เป็นอย่างดี และสำหรับใครที่สงสัยจริง ๆ แล้ว ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน ก็พอจะคลายข้อสงสัยกันได้แล้วใช่ไหม? ซึ่งนอกจากจะเลือกใช้รุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาตามที่แพทย์แนะนำร่วมด้วย เท่านี้ก็จะช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ใต้ตาให้อยู่กับเราได้นานที่สุดแล้วล่ะ