Amarante Clinic For you park Bangna 2nd Floor (ฟอร์ ยู พาร์ค บางนา ชั้น 2)
โปรแกรม ฉีดโบท็อกซ์ เติมความมั่นใจ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
ทางเลือกที่ตอบโจทย์ความงามของคุณได้อย่างตรงจุด ด้วยประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า และยกกระชับผิว ที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก คลินิกของเราพร้อมให้บริการฉีดโบท็อกซ์โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของความงามของคุณ เราคัดสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์คุณภาพสูง ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่ได้
โบท็อกซ์ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ในรูปแบบบริสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดีในด้านความสามารถในการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า การฉีดโบท็อกซ์จะทำงานโดยทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว ซึ่งไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการรักษาทางการแพทย์ที่หลากหลายอีกด้วย อาการต่างๆ เช่น อาการคอกระตุก เหงื่อออกมากเกินไป กระเพาะปัสสาวะไวเกิน และไมเกรนเรื้อรัง สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งช่วยขยายขอบเขตการใช้งานออกไป นอกเหนือจากการเสริมความงาม
ความคุ้มค่า และการเป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด มีส่วนทำให้โบท็อกซ์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยทั่วไปการรักษาจะต้องใช้การฉีดหลายจุด ซึ่งสามารถทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว และแทบไม่ต้องพักฟื้น ทำให้บุคคลนั้นสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีหลังจากการรักษา ความง่ายในการเข้าถึงการรักษาด้วยโบท็อกซ์ แสดงให้เห็นได้จากช่วงราคาสำหรับการใช้งานทางการแพทย์ และการเสริมความงามที่หลากหลาย
แม้ว่าจะมีประโยชน์ด้านความสวยงาม แต่ก็จำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับโบท็อกซ์ให้ดีเสียก่อน การเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ และความสำคัญของการรับการฉีดโบท็อกซ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ การใช้โบท็อกซ์ในการรักษาทางการแพทย์นั้น มีความหลากหลาย รวมถึงการรักษาตาเหล่ และแม้กระทั่งการบรรเทาอาการไมเกรนเรื้อรัง แต่ก็ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษานั้นปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
สารบัญ
3. ประโยชน์ของโบท็อกซ์ (Botox)
4. Amarante Clinic ให้บริการฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ส่วนใดบ้าง
5. โปรโมชั่นที่น่าสนใจของ Amarante Clinic
6. ภาพรวมขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
7. สิ่งที่คุณควรรู้ก่อน และหลังการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
8. ผลข้างเคียงของโบท็อกซ์ (Botox)
9. ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ที่ Amarante Clinic
โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร
โบท็อกซ์ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายสำหรับการใช้งานด้านความงาม แต่ประโยชน์ของโบท็อกซ์นั้น มีมากกว่าการเสริมความงาม
คำจำกัดความ และประเภทของโบท็อกซ์
โบท็อกซ์ หมายถึงโปรตีนที่มีพิษต่อระบบประสาทได้มาจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ประเภทของ Botox ได้แก่ BOTOX® (onabotulinumtoxinA) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหาร และยา สำหรับการรักษา และการเสริมความงามที่หลากหลาย สูตรอื่นๆ ได้แก่ Dysport (abobotulinumtoxinA) และ Xeomin (incobotulinumtoxinA) ซึ่งแต่ละตัวมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในโครงสร้างโมเลกุล และการใช้งานทางคลินิก
กลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์
โบท็อกซ์ ทำงานโดยยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาท acetylcholine ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดเข้าไปจะทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่รักษาคลายตัวชั่วคราว ทำให้เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย และจัดการกับความผิดปกติของกล้ามเนื้อบางอย่าง
ความแตกต่างระหว่างโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์
แม้ว่าทั้งโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ จะใช้เพื่อต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย แต่ทั้งสองชนิดทำงานต่างกัน โบท็อกซ์ มุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อ เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหว เช่น ริ้วรอยบนหน้าผาก หรือรอยตีนกา ในทางตรงกันข้าม ฟิลเลอร์ เป็นสารที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มปริมาตร และความอวบอิ่มให้กับบริเวณที่บางลง เนื่องจากอายุ เช่น แก้ม ริมฝีปาก หรือบริเวณรอบปาก
กลับสู่สารบัญการใช้โบท็อกซ์ (Botox)
โบท็อกซ์ มักใช้เพื่อเสริมความงาม เช่น ช่วยลดริ้วรอย และช่วยให้ใบหน้าแลดูยกกระชับ นอกจากนั้นยังมีบทบาทอย่างมากในการรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ เนื่องจากคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อได้
การใช้โบท็อกซ์ลดริ้วรอย
การฉีดโบท็อกซ์ จะเน้นไปที่กล้ามเนื้อ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย โดยหลักแล้วจะออกฤทธิ์ต่อแรงกระตุ้นเส้นประสาท การปิดกั้นแรงกระตุ้นเหล่านี้ จะทำให้โบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้ผิวเรียบเนียน และลดการปรากฏของริ้วรอยที่มีอยู่เดิม บริเวณที่นิยมรักษา ได้แก่ ริ้วรอยขมวดคิ้ว ตีนกา และรอยย่นบนหน้าผาก การรักษานี้เป็นการรักษาชั่วคราว และมักจะอยู่ได้นาน 3 ถึง 6 เดือน
การใช้โบท็อกซ์ เพื่อยกกระชับผิวหน้า
โบท็อกซ์นั้น เป็นทางเลือกแบบไม่ต้องผ่าตัดแทนวิธีการอื่นๆ โดยสามารถฉีดยาเข้าไปในจุดต่างๆ บนใบหน้าเพื่อให้ยกขึ้นเล็กน้อย ด้วยการทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าบางส่วนผ่อนคลาย ผิวจึงแลดูตึง และดูอ่อนเยาว์ การรักษานี้ อาจเน้นที่คิ้ว กราม หรือลำคอ เพื่อปรับปรุงผิวหย่อนคล้อย โดยผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการทำศัลยกรรม
การใช้โบท็อกซ์ เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย
คุณสมบัติคลายกล้ามเนื้อของโบท็อกซ์ สามารถนำไปใช้รักษาอาการเจ็บป่วยได้หลากหลาย โดยได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหาร และยา (FDA) สำหรับรักษาไมเกรนเรื้อรัง อาการเหงื่อออกที่ใต้รักแร้มากเกินไป (hyperhidrosis) กระเพาะปัสสาวะไวกว่าปกติ และการหดเกร็งของกล้ามเนื้อคอที่เรียกว่า โรคคอบิดเกร็ง (cervical dystonia) สำหรับอาการเจ็บป่วยเหล่านี้ โบท็อกซ์จะเข้าไปขัดขวางสารสื่อประสาท ทำให้อาการต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อเกร็ง หรือเหงื่อออกมากเกินไปดีขึ้น การฉีดจะต้องดำเนินการในสถานพยาบาล โดยปริมาณยาจะต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละอาการที่ทำการรักษา
กลับสู่สารบัญประโยชน์ของโบท็อกซ์ (Botox)
โบท็อกซ์ หรือ onabotulinumtoxinA เป็นที่รู้จักกันดีในด้านประโยชน์ต่อความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสามารถในการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า บริเวณที่นิยมรักษารวมถึงหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และรอบดวงตา (ตีนกา) การฉีดโบท็อกซ์มักจะทำในสถานพยาบาล และเป็นการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินเข้าไปในผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อด้วยเข็มขนาดเล็กมาก
นอกจากความนิยมด้านความงามแล้ว โบท็อกซ์ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์อีกด้วย ตามข้อมูลของ NIH News in Health การใช้สารโบทูลินั่มท็อกซิน ครอบคลุมถึงอาการทางการแพทย์หลายอย่าง รวมถึงอาการผิดปกติของดวงตาบางชนิด กล้ามเนื้อตึง/กระตุก ปวดไมเกรน และภาวะเหงื่อออกมากเกินไป (hyperhidrosis)
- ลดริ้วรอย : ทำให้ผิวเรียบเนียน และลดสัญญาณแห่งวัย
- การใช้ทางการแพทย์ : มอบประโยชน์ในการรักษาสภาวะทางการแพทย์ต่างๆ
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ ทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่นาน บ่อยครั้งถือเป็นการรักษาที่ทำได้โดยไม่ต้องพักฟื้น ระยะเวลาของผลลัพธ์ มักจะอยู่ได้ประมาณสามถึงสี่เดือน หลังจากนั้น ผู้เข้ารับบริการ อาจเลือกเข้ารับการฉีดเพิ่มเติม เพื่อคงผลลัพธ์ของโบท็อกซ์เอาไว้
เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้ที่กำลังจะฉีดโบท็อกซ์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถประเมินความต้องการเฉพาะของแต่ละคน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวังได้จากการรักษาได้ ข้อมูลที่มีให้นี้ ยังเน้นย้ำความสำคัญของการปรึกษาหารือ เกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องการกับผู้เชี่ยวชาญด้านโบท็อกซ์ เพื่อหาผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากขั้นตอนการรักษา
กลับสู่สารบัญAmarante Clinic ให้บริการฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ส่วนใดบ้าง
Amarante Clinic พร้อมดูแลคุณด้วยบริการฉีดโบท็อกซ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ เพื่อให้คุณสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และมั่นใจในทุกองศา
เราให้บริการฉีดโบท็อกซ์ในหลายส่วนของร่างกาย เพื่อความงาม และการรักษา โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
ลดเลือนริ้วรอย
- หน้าผาก : ลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ เช่น การขมวดคิ้ว ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น
- หางตา (ตีนกา) : ลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดจากการยิ้ม หรือหัวเราะ ทำให้ดวงตาดูสดใส และอ่อนเยาว์
- หว่างคิ้ว : ลดริ้วรอยบริเวณหว่างคิ้วที่ทำให้ดูเคร่งขรึม หรือดุ ทำให้ใบหน้าดูผ่อนคลาย และเป็นมิตรมากขึ้น
ปรับรูปหน้า
- ลดกราม (Botox Masseter) : ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ลดความเหลี่ยมของกราม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าใหญ่ หรือกรามชัด
- ยกกระชับใบหน้า (Botox Lift) : ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และสดใสขึ้น
- ลิฟท์กรอบหน้า (Jawline Botox) : ช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น ใบหน้าดูเรียวสวยเป็น V-Shape
ปรับแต่งส่วนอื่นๆ
- ลดน่อง (Calf Botox) : ลดขนาดของน่องให้เรียวเล็กลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาน่องใหญ่
- ลดปีกจมูก (Alar Botox) : ปรับแต่งรูปทรงของจมูกให้ดูเรียวเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
- ลดเหงื่อ (Botulinum Toxin for Hyperhidrosis) : ลดปัญหาเหงื่อออกมากบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือเท้า ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
โปรโมชั่นที่น่าสนใจของ Amarante Clinic
Amarante Clinic ขอเชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์ความงามที่เหนือระดับไปอีกขั้น ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะต้องการปรับรูปหน้าให้สวยเป๊ะ ดูแลผิวให้กระจ่างใส หรือกระชับสัดส่วนให้เฟิร์ม เรามีโปรแกรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมมอบความคุ้มค่าที่คุณไม่ควรพลาด
กลับสู่สารบัญภาพรวมขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
การฉีดโบท็อกซ์ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด มีวัตุประสงค์ เพื่อลดเลือนริ้วรอย และร่องลึก โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความแม่นยำ และมีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม จะเป็นผู้กำหนดจุดในการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
ขั้นตอนการฉีด
- การปรึกษา : ก่อนการฉีด ผู้ให้บริการจะประเมินประวัติทางการแพทย์ และเป้าหมายด้านความงามของผู้รับบริการ เพื่อกำหนดบริเวณที่เหมาะสมในการรักษา
- การเตรียม : บริเวณที่ทำการรักษาจะได้รับการทำความสะอาด และอาจมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดความรู้สึกไม่สบาย การทำเครื่องหมายบริเวณที่จะฉีดอย่างแม่นยำจะช่วยในการรักษา
- การฉีด : ผู้ให้บริการจะใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดโบทูลินัมท็อกซินเข้าไปในบริเวณที่กำหนดไว้ โดยใช้ปริมาณที่จำเป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
- การดูแลหลังการฉีด : ผู้รับบริการจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำ หรือการแพร่กระจายของสารพิษ
บริเวณที่ทำการฉีด
- ริ้วรอยหน้าผาก : โดยปกติแล้ว ริ้วรอยแนวนอนบนหน้าผาก สามารถรักษาได้ด้วยโบท็อกซ์ โดยปกติจะต้องฉีดหลายจุด ในปริมาณเล็กน้อย
- รอยตีนกา : ซึ่งเป็นร่องที่เกิดจากรอยยิ้ม มักต้องอาศัยการฉีดโบท็อกซ์ข้างละเล็กน้อย เพื่อให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ริ้วรอยหว่างคิ้ว : รอยย่นระหว่างคิ้ว สามารถลดเลือนได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณนั้น
ตำแหน่งการฉีดแต่ละครั้ง จะถูกเลือกตามลักษณะทางกายวิภาคของใบหน้าของแต่ละบุคคล และขอบเขตของการแก้ไขที่จำเป็น โดยทั่วไปจะใช้เวลาน้อยกว่า 15 นาที
การจัดการความเจ็บปวด และความรู้สึกไม่สบาย
- ยาชา : เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ อาจจะมีการทายาชาเฉพาะที่ หรือประคบน้ำแข็งก่อน
- เทคนิค : แพทย์ผู้ชำนาญ จะช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายตลอดการรักษา ด้วยการใช้เข็มขนาดเล็ก และเทคนิคการฉีดยาที่รวดเร็ว และนุ่มนวล
- การดูแลหลังการฉีด : เพื่อป้องกันการกระจายของสาร (toxin) และลดอาการบวม ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือคลึงบริเวณที่ฉีดเป็นเวลาหลายชั่วโมง หลังการรับบริการ
ทักษะของผู้ให้บริการ ทั้งในด้านเทคนิคการฉีด และการจัดการความเจ็บปวด มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความง่ายในการทำหัตถการ และความพึงพอใจของลูกค้า
กลับสู่สารบัญสิ่งที่คุณควรรู้ก่อน และหลังการฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
ก่อนรับการฉีดโบท็อกซ์ บุคคลควรปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจขั้นตอน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่กำลังพิจารณาการฉีดโบท็อกซ์ควรเปิดเผยยา หรืออาหารเสริมใดๆ ที่รับประทานอยู่ด้วย เนื่องจากสารบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำได้
หลังการฉีด โดยทั่วไปผู้เข้ารับบริการ จะได้รับคำแนะนำดังนี้
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- อยู่ในท่านั่งตรงหลังรับการรักษาเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์แพร่กระจายไปยังกล้ามเนื้ออื่นๆ
- หลีกเลี่ยงการนวด หรือกดบริเวณที่ทำการรักษา เพื่อป้องกันการกระจายตัวของสารพิษ
เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการต้องเข้าใจว่า ผลของโบท็อกซ์จะไม่เห็นผลทันที ผลลัพธ์โดยทั่วไปจะเริ่มปรากฏภายในสองสามวัน แต่การเห็นผลอย่างเต็มรูปแบบอาจใช้เวลานานถึงสองสัปดาห์
คำแนะนำการดูแลหลังการฉีดโบท็อกซ์
| ควรปฏิบัติ | ห้ามปฏิบัติ |
|---|---|
| ออกกำลังกายใบหน้าเบาๆ เพื่อแสดงอารมณ์ปกติ | ห้ามถู หรือนวดบริเวณที่ฉีด |
| รักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับปกติ; หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก | หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือนอนคว่ำในช่วง 4 ชั่วโมงแรก |
| รักษาส่วนศีรษะให้ตั้งตรง ในช่วงสองสามชั่วโมงแรก | ห้ามสัมผัสกับความร้อน ห้องอบซาวน่า และฝักบัวน้ำร้อน |
ผลข้างเคียงของโบท็อกซ์ (Botox)
การฉีดโบท็อกซ์ ถูกใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อความสวยงาม และการรักษา แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้หลายอย่าง แม้ว่าผลข้างเคียงส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง และหายไปเอง แต่การรับรู้ถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจรุนแรงกว่า ก็เป็นสิ่งสำคัญ
ผลข้างเคียงทั่วไป
รายการต่อไปนี้ สรุปผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด ที่เกี่ยวข้องกับการฉีดโบท็อกซ์
- ปวด บวม หรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีด
- ปวดหัว หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หลังการรักษา
- หนังตาตก หรือคิ้วโก่งชั่วคราว
- กลืนลำบาก พูดลำบาก หรือหายใจลำบาก หากสารพิษแพร่กระจายเกินบริเวณที่ทำการรักษา
ผลข้างเคียงเหล่านี้ มักอยู่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ และจะหายไปเอง
ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง
ผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่า มีดังนี้
- อาการแพ้ ซึ่งอาจแสดงออกในรูปแบบของอาการคัน ผื่น หรืออาการรุนแรง เช่น ภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
- การรบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ
- ปัญหาการมองเห็น เช่น การมองเห็นภาพเบลอ หรือซ้อน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งอาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อ ที่อยู่ใกล้เคียงกับบริเวณที่ทำการรักษา
- สัญญาณของการแพร่กระจายของสารพิษ เช่น เสียงเปลี่ยน หนังตาตก หรือการมองเห็นผิดปกติ
ผู้เข้ารับบริการ ควรพบแพทย์ หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรง ตามหลังการฉีดโบท็อกซ์
กลับสู่สารบัญทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ที่ Amarante Clinic
ที่ Amarante Clinic เราเข้าใจถึงความสำคัญของความงาม และความมั่นใจของคุณ เราจึงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การฉีดโบท็อกซ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : ทีมแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงในการฉีดโบท็อกซ์ นำโดยคุณหมอต้น นพ.สฤษดิ์ ตันติอภิชาต ซึ่งเป็น AMI Trainer แพทย์ผู้สอนการฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์จาก Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา
- เทคนิคการฉีดที่แม่นยำ : เรามุ่งเน้นเทคนิคการฉีดที่แม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และตรงตามความต้องการของคุณ
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
- โบท็อกซ์แท้จากอเมริกา : เราใช้โบท็อกซ์ Allergan ของแท้จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และได้รับการยอมรับในระดับสากล
- ตรวจสอบได้ : คุณสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ที่เราใช้ได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ และความปลอดภัย
ความปลอดภัย และมาตรฐาน
- คลินิกได้มาตรฐาน : Amarante Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงเซเลบริตี้ และดารา
- การดูแลเอาใจใส่ : เราให้ความสำคัญกับการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าทุกท่านอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางแผนการรักษา จนถึงการติดตามผลหลังการรักษา
รางวัล และความสำเร็จ
- Top Clinic 7 ปีซ้อน : Amarante Clinic ได้รับรางวัล Top Clinic ที่มียอดฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ Juvederm สูงสุดในประเทศไทย ถึง 7 ปีซ้อน
- ความไว้วางใจจากลูกค้า : เรามีรีวิว และเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพ และความพึงพอใจในการบริการของเรา
โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษ
- โปรโมชั่นหลากหลาย : เรามีโปรโมชั่น และแพ็กเกจสุดคุ้ม สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้คุณได้รับบริการความงามในราคาที่เข้าถึงได้
- สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : ลูกค้าสมาชิกของ Amarante Clinic จะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลด และของสมนาคุณเพิ่มเติมอีกมากมาย
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ Amarante Clinic จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อความงามอย่างมั่นใจ
กลับสู่สารบัญผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์ (Botox) กับทาง Amarante Clinic
ไม่ใช่แค่ลดริ้วรอย แต่ Amarante Clinic จะพาคุณย้อนวัยไปอีกครั้ง ด้วยเทคนิคการฉีดที่ละเอียดอ่อน และผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากอเมริกา ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับหลังฉีดโบท็อกซ์กับเรา ไม่ใช่แค่ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ยังเป็นความมั่นใจที่เพิ่มพูน และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คำถามที่พบบ่อย
การฉีดโบท็อกซ์ อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยคล้ายมดกัด หรือถูกหนังยางดีด แต่แพทย์ของเราจะใช้เทคนิคการฉีดที่ละเอียดอ่อน และอาจมีการประคบเย็น หรือใช้ยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดความรู้สึกไม่สบายให้คุณ ทำให้การฉีดโบท็อกซ์เป็นไปอย่างราบรื่น และผ่อนคลาย
หากฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่เหมาะสม และโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใบหน้าจะไม่ดูแข็ง หรือผิดธรรมชาติ โบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยดูจางลง แต่ยังคงสามารถแสดงอารมณ์ได้ตามปกติ
การฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อโบท็อกซ์ได้ แต่หากฉีดในปริมาณที่เหมาะสม และเว้นระยะห่างตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะไม่ทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์
หากคุณไม่พอใจกับผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์ สามารถปรึกษาแพทย์ของเราได้ทันที เราจะทำการประเมิน และหาทางแก้ไขให้คุณอย่างดีที่สุด
สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติหลังฉีดโบท็อกซ์ แต่ควรหลีกเลี่ยงการถู หรือกดบริเวณที่ฉีดแรงๆ
ข้อมูลที่น่าสนใจ
การเตรียมความพร้อมที่เหมาะสม สำหรับการฉีดโบท็อกซ์นั้น มีความสำคัญอย่างมากต่อความสะดวกสบาย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรึกษาเบื้องต้น การเลือกผู้ให้บริการมืออาชีพ และการปฏิบัติตามแนวทางก่อนการรักษา
การปรึกษาเบื้องต้น
การปรึกษาเบื้องต้น เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการที่มีโอกาสจะได้รับการรักษาจะหารือเกี่ยวกับเป้าหมายด้านความงาม และประวัติทางการแพทย์ แพทย์จะประเมินว่าโบท็อกซ์เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล หรือไม่ และผลลัพธ์ที่เขา หรือเธอควรคาดหวังได้อย่างสมเหตุสมผล
การเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
การเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความปลอดภัย และประสิทธิภาพ ผู้เข้ารับบริการ ควรค้นคว้า และเลือกผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการสาขาโรคผิวหนัง หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอื่นๆ ที่มีการฝึกอบรมเทียบเท่าในด้านกายวิภาคของใบหน้า และการฉีดโบท็อกซ์
คำแนะนำก่อนการรักษา
ในช่วงหลายวันก่อนขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์ แพทย์มักจะแนะนำให้งดใช้ยา และอาหารเสริมที่ทำให้เลือดบาง เพื่อลดรอยฟกช้ำ การใช้แผ่นประคบเย็น อาจเป็นประโยชน์ก่อน และหลังการฉีด เพื่อลดอาการบวม และฟกช้ำ นอกจากนี้ยังแนะนำให้งดดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยฟกช้ำ และให้อยู่ในท่ายืนตรงเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังการรักษา
เมื่อคุณกำลังคิดจะฉีดโบท็อกซ์ หนึ่งในประเด็นที่ต้องคิดถึงเป็นหลัก คือ เรื่องของค่าใช้จ่าย ราคาของการฉีดโบท็อกซ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และอาจจะแตกต่างกันได้ตามสถานที่ ความชำนาญของแพทย์ และลักษณะเฉพาะของการรักษา
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายในการฉีดโบท็อกซ์นั้น ไม่เท่ากัน และอาจได้รับอิทธิพลจากองค์ประกอบสำคัญหลายประการ
- ทำเลที่ตั้ง : โดยทั่วไปราคาจะสูงกว่าในเขตเมืองใหญ่ เมื่อเทียบกับพื้นที่ชนบท เนื่องจากความต้องการ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
- ความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ : คลินิกเฉพาะทาง อาจคิดค่าบริการมากกว่าผู้ให้บริการทั่วไป เนื่องจากความเชี่ยวชาญด้านการทำหัตถการเพื่อความงาม
- บริเวณที่ทำการรักษา : ความซับซ้อน และขนาดของบริเวณที่ทำการรักษา อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายโดยรวม
- จำนวนยูนิต : โดยทั่วไป โบท็อกซ์จะคิดราคาต่อยูนิต และจำนวนยูนิตที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไป ตามเป้าหมายของแต่ละบุคคล และลักษณะทางกายวิภาคของกล้ามเนื้อ
- ความถี่ในการรักษา : การรักษาอย่างสม่ำเสมอ อาจมีประโยชน์ลดค่าใช้จ่าย ด้วยข้อเสนอเป็นแพ็คเกจ หรือส่วนลดลูกค้าประจำ
การประมาณค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย
เพื่อให้เข้าใจถึงค่าใช้จ่ายในการฉีดโบท็อกซ์อย่างสมจริง โปรดพิจารณาจากราคาโดยเฉลี่ยดังต่อไปนี้
- ราคาต่อยูนิต : ค่าใช้จ่ายต่อยูนิตอาจอยู่ระหว่าง 350 ถึง 500 บาท ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ และสถานที่
- ค่ารักษาโดยรวม : ราคาสำหรับการฉีดโบท็อกซ์หนึ่งครั้ง อาจมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 16,000 บาท แตกต่างกันไปตามจำนวนหน่วยที่ใช้ และบริเวณที่รักษา
โปรดทราบว่าการรักษาเพื่อความงาม เช่น โบท็อกซ์โดยทั่วไปไม่ครอบคลุมโดยประกันสุขภาพ และราคาอาจแตกต่างกันอย่างมาก ตามปัจจัยส่วนบุคคล และโครงสร้างการกำหนดราคาของผู้ให้บริการ ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้ให้บริการหลายราย เพื่อทำความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่คาดไว้
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาทางเลือกอื่น นอกเหนือจากโบท็อกซ์ มีหลากหลายตัวเลือกตั้งแต่การฉีดชนิดอื่น ไปจนถึงวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแต่ละวิธีก็มีกลไกการทำงาน และประโยชน์ที่แตกต่างกันไป
การฉีดชนิดอื่น
- Xeomin : ประกอบด้วยสารสกัดบริสุทธิ์ของโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิด A ซึ่งทำงานคล้ายกับโบท็อกซ์ แต่ไม่มีโปรตีนเชิงซ้อนที่พบในโบท็อกซ์
- Dysport : ออกฤทธิ์เร็วกว่าโบท็อกซ์เล็กน้อย และกระจายไปยังบริเวณกว้างกว่า ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับบริเวณที่รักษาขนาดใหญ่กว่า
- Jeuveau : หรือที่เรียกว่า “Newtox” Jeuveau เป็นสารสกัดจากพิษที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทรุ่นใหม่ในท้องตลาด มีกลไกการออกฤทธิ์คล้ายกับ Botox และ Dysport โดยจะออกฤทธิ์โดยตรงที่กล้ามเนื้อ
การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด
- Laser Therapy : ใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และสามารถปรับปรุงสีผิว และพื้นผิวของผิว
- Cryotherapy : ใช้ความเย็นจัด เพื่อกระตุ้นผิวหนัง และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้ผิวดูสดชื่นขึ้น
- Facial Creams : การใช้ครีมบำรุงผิวเฉพาะ ที่อาจมีส่วนผสมที่ช่วยปรับปรุงความชุ่มชื้นของผิว และอาจลดเลือนริ้วรอย
- Face Patches : ออกแบบมาเพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียน และป้องกันริ้วรอย โดยการกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง แผ่นแปะหน้าเหล่านี้ มักนิยมใช้แปะทิ้งไว้ก่อนนอน
ในโลกของหัตถการความงาม โบท็อกซ์อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เกี่ยวกับกฎระเบียบทางกฎหมาย และมาตรฐานทางจริยธรรม การพิจารณาเหล่านี้ ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการ และรักษาความซื่อสัตย์ในวิชาชีพ
กฎระเบียบ และการอนุมัติ
โบท็อกซ์ หรือ onabotulinumtoxinA เป็นสารพิษต่อระบบประสาทที่ผลิตโดยแบคทีเรีย Clostridium botulinum และการใช้ในด้านความงามอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ในสหรัฐอเมริกา องค์การอาหาร และยา (FDA) ได้อนุมัติโบท็อกซ์สำหรับทั้งข้อบ่งชี้ด้านความงาม และการรักษา ซึ่งรับรองความปลอดภัย และประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานสาธารณะ ผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ใช้โบท็อกซ์ ต้องปฏิบัติตามแนวทางของ FDA และมีใบอนุญาต และใบรับรองที่จำเป็น
ผู้ประกอบวิชาชีพยังผูกพันตามกฎระเบียบของรัฐ ซึ่งอาจรวมถึงข้อกำหนดเฉพาะสำหรับการฝึกอบรม ปริมาณ และขอบเขตของการปฏิบัติ กฎระเบียบในท้องถิ่นนี้ เรียกร้องให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับแจ้งเกี่ยวกับกฎหมายล่าสุดในพื้นที่ของตน
ความหมายทางจริยธรรม
การใช้โบท็อกซ์ในทางคลินิกอย่างมีจริยธรรมนั้น ขึ้นอยู่กับการได้รับความยินยอมโดยการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน การเคารพอิสระในการตัดสินใจของผู้เข้ารับบริการ และความมุ่งมั่นที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย การพิจารณาทางจริยธรรมเป็นสิ่งสำคัญ ตามที่ระบุไว้ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ ซึ่งรวมถึงความจำเป็นในการเคารพความลับของผู้เข้ารับบริการ และทางเลือกส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ได้กล่าวถึงความรับผิดชอบทางจริยธรรม และวิชาชีพของผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ในระหว่างขั้นตอนการเสริมความงาม
ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามทางการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ต้องเข้าใจความต้องการของผู้เข้ารับบริการ พร้อมทั้งสร้างความคาดหวังที่เป็นจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการรักษา การใช้ดุลยพินิจ และการตัดสินใจอย่างรอบคอบ เป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาความเหมาะสมของการใช้โบท็อกซ์สำหรับแต่ละบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งมาตรฐานทางจริยธรรม และเสริมสร้างความไว้วางใจในความสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้ารับบริการ และผู้ให้บริการ
แม้ว่าโบท็อกซ์จะเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในฐานะการรักษาเพื่อความงาม แต่ก็ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการใช้ และผลกระทบของโบท็อกซ์อยู่หลายประการ ส่วนนี้จะกล่าวถึงความเชื่อผิดๆ เหล่านี้ เพื่อชี้แจงว่า โบท็อกซ์คืออะไรกันแน่
- ความเข้าใจผิดที่ 1 : โบท็อกซ์ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์ที่มากเกินไป หรือไม่ถูกต้อง จะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่เมื่อทำอย่างถูกต้อง โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จะทำให้ดูสดชื่น และเป็นธรรมชาติ
- ความเข้าใจผิดที่ 2 : โบท็อกซ์ อยู่ได้ถาวร โบท็อกซ์ เป็นการรักษาชั่วคราว โดยทั่วไป ผลของมันคงอยู่ระหว่าง 3-6 เดือน หลังจากนั้น หากไม่ได้รับการฉีดโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่อง การทำงานของกล้ามเนื้อ จะกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ความเข้าใจผิดข้อที่ 3 : การหยุดใช้โบท็อกซ์ จะทำให้ริ้วรอยแย่ลง ตรงกันข้ามกับความเชื่อนี้ การหยุดการรักษาด้วยโบท็อกซ์ จะไม่ทำให้ริ้วรอยแย่ลง ผิวจะกลับคืนสู่สภาพก่อนการรักษา และยังคงแก่ตามธรรมชาติ
- ความเข้าใจผิดข้อที่ 4 : โบท็อกซ์ไม่ปลอดภัย โบท็อกซ์ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหาร และยา (FDA) ให้ใช้เพื่อความงาม และมีประวัติความปลอดภัยที่ดี เมื่อได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาต
เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อขอคำแนะนำ และพูดคุยเกี่ยวกับความเข้าใจผิดทั่วไปเหล่านี้ เพื่อปูทางไปสู่การตัดสินใจ เกี่ยวกับการรักษา ด้วยโบท็อกซ์อย่างรอบรู้
บทความที่เกียวข้อง
แผนที่สาขาของเรา
ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า Amarante Clinic มีสาขาให้บริการ 2 สาขา และจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยมาตรฐานสินค้า และบริการยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ลูกค้าสามารถใช้บริการ ตามสาขาใกล้บ้านท่านได้เลย
Amarante Clinic สาขาอารีย์ 34 ซ.อารีย์ พหลโยธิน 7 ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอารีย์ ลงทางออกที่ 3 จากปากซอย 150 เมตร
